ปริ๊นซ์ ออฟ เทนนิส (ญี่ปุ่น: テニスの王子様; โรมาจิ: Tenisu no Ouji-sama) หรือ ปริ๊นซ์ ออฟ เทนนิส เจ้าชายลูกสักหลาด (ชื่อในฉบับอนิเมะ) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่เขียนและวาดภาพประกอบโดยทาเคชิ โคโนมิ การ์ตูนมังงะเรื่องนี้ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1999 ถึงมีนาคม ค.ศ. 2008 โดยมีทั้งหมด 42 เล่มจบ วิซมีเดียได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ฉบับภาษาอังกฤษในอเมริกาเหนือ
ปริ๊นซ์ ออฟ เทนนิส ฉบับภาพยนตร์ กำกับโดย ยูอิจิ อาเบะ และออกฉายในญี่ปุ่นวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 จัดจำหน่ายโดย โชจิกุฟิล์ม โดยมีการจัดทำออกมาในฉบับภาษาญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว นำแสดงโดย ฮงโฮ คานาตะ (เรียวมะ) และ ชิโรตะ ยู (คุนิมิตซึ)
เรื่องราวของในฉบับภาพยนตร์จะดัดแปลงจากฉบับมังงะโดยมีเนื้อหาที่สั้น โดยเรื่องราวเริ่มต้นจากที่เรียวมะเข้ามาเรียนที่เซชุน และได้แข่งขันกับฟุโดมิเนะ โดยได้ข้ามส่วนที่แข่งกับเซนต์รูดอล์ฟและยามาบุกิไป โดยสุดท้ายได้แข่งกับโรงเรียนเฮียวเท ซึ่งในนัดสุดท้ายนั้นผลการแข่งขันของเซชุนและเฮียวเทคือ ชนะสอง แพ้สอง และเสมอหนึ่ง ทำให้เรียวมะเป็นคนสุดท้ายที่จะมาแข่งขันตัดสินกับฮิงะกิ (ตัวละครพิเศษเฉพาะในฉบับภาพยนตร์) ในรอบพิเศษและชนะไป
ลักษณะที่ดัดแปลงของฉบับภาพยนตร์คือโค้ชของเซชุน ริวซากิ สุมิเระ ในฉบับภาพยนตร์จะเป็นหญิงสาวแทนที่จะเป็นคุณป้า (แสดงโดย ฮิโตมิ ชิมาทานิ) ซึ่งส่งผลให้ไม่มีตัวละคร ริวซากิ ซากุโนะ
เอจิเซ็น เรียวมะย้ายเข้ามาเรียนที่มัธยมต้นโรงเรียนเซชุนหรือในภาษาญี่ปุ่นคือ"เซซุน งาคุเอน"(青春学園, Seishun Gakuen) หรือเรียกสั่นๆว่า"เซงาคุ" (Seigaku 青学) โรงเรียนดังที่มีชื่อเสียงด้านเทนนิส เป็นหนุ่มน้อยอัจฉริยะ แชมป์ 4 สมัยซ้อนในการแข่งขันรุ่นจูเนียร์ของอเมริกา เรียวมะเข้าชมรมได้ไม่ทันไร ก็ไต่เต้าขึ้นเป็นนักกีฬาตัวจริงที่เป็นเด็กปี 1 คนแรกในชมรม ภายหลังจากได้เป็นตัวแทนแล้วได้ไปร่วมแข่งขันของโรงเรียนไปแข่งในระดับเขต และในรอบชิงชนะเลิศได้เจอกับโรงเรียนฟุโดมิเนะ
จบการแข่งขันโรงเรียนเซชุนได้เป็นตัวแทนแข่งขันในระดับโตเกียวร่วมกับโรงเรียนฟุโดมิเนะ โดยมีโรงเรียนทั้งหมด 108 โรงเรียนร่วมแข่งขัน การแข่งขันได้แบ่งออกเป็น 4 บล็อก โดยโรงเรียนเซชุนได้เจอกับโรงเรียนเซนต์รูดอล์ฟ ในขณะที่ฟุโดมิเนะเจอกับโรงเรียนเฮียวเทใน ในรอบแปดทีมสุดท้าย และผลการจับคู่ในรอบสี่ทีมสุดท้ายได้แก่
จบการแข่งขัน 5 โรงเรียนจากเขตโตเกียวได้ไปร่วมการแข่งขันในระดับภูมิภาคคันโต โดยโรงเรียนเฮียวเทเป็นโรงเรียนที่ห้าที่ได้สิทธิร่วมแข่งขัน
(นางแอ่นหวนกลับ อัพเกรดเป็น ฟินิกซ์ถลาลม ปลาวาฬเผือกเป็น มังกรขาว พิฆาตหมีสีน้ำตาลเป็นพิฆาตกิเลน),เคานท์เตอร์ที่ 4 ตบแมลงเม่า,เคาเตอร์ลูกที่ 5 นายทวารเฮคาทันไคร์ (อสูรร้อยหัตถ์),เคาเตอร์ลูกที่ 6 พลุดวงดาว,Close Eyes
ท่าไม้ตาย "สไลน์ดิ่ง, เปลี่ยนวิถีการตบลูก, การเคลื่อนไหวแบบยืดหยุ่น", Destruction, สัมผัสที่8 "อาลัยวิญญาณ"
-ท่าไม้ตาย : ทันพอยซ์เซอร์ เสิร์ฟ, โลกแห่งน้ำแข็ง(อัพเกรด มาเป็น Atobe Kingdom),บทเพลงแห่งหายนะ (อัพเกรด มาเป็น ระบำแห่งความสิ้นหวัง (บทเพลงแห่งหายนะ+ทันพอยซ์เซอร์)), สายตาจับการเคลื่อนไหวจุดอ่อนหรือการบาดเจ็บของคู่ต่อสู้
-คำพูดติดปาก : ฮ้าว~, สุดยอดเลย, เมื้อกี้เห็นหรือเปล่าน่ะ
-ท่าไม้ตาย "เสิร์ฟ & วอลเล่ย์, Magic Volley, ซูเปอร์ไรซิ่ง
- ท่าไม้ตาย: เทพบังตา(ใช้ได้ทั้งลูกเสิร์ฟและตีแบ็คแฮนด์),สภาวะไร้ตัวตน = นำไปสู่ประตูบานที่2ท่าระเบิดปัญญา
ฉายา :อัจฉริยะ
- ท่าไม้ตาย : IQ200 เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของท้าไม้ตายที่คู่ต่อสู้ตีมา,เทนนิสแบบฮา ๆ (+ฮิโตอุจิ)
- ท่าไม้ตาย : เล่นแบบโลดโผน (เหมือนลิง), Super ultra great delicious กงล้อพายุหมุน,ผลของการนำไปสู่ ประตูบานที่1 ผลของการฝึกตนทั้งร้อย ประตูบานที่ 2 ผลของการระเบิดปัญญา,ประตูบานที่3 สภาวะไร้ที่ติ
คุณครูสาวสวยที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา เธอทำการ Coordination นักเรียนทุกคน โดยเรียกนักเรียนทุกคนว่า "สิ่งประดิษฐ์"
นักเรียนชายตัวสูงที่แข่งขันกับเอจิเซ็น เรียวมะในศึกคันโต ถือว่าเป็นนักเรียนที่มีฝีมือดีที่สุดในโรงเรียนโจเซโชนัน
ทีมโรงเรียนมัธยมปลายที่ปรากฏตัวใน The Prince of Tennis II ในฐานะสมาชิกของค่ายเทนนิส U-17 ชั้นยอดสำหรับทีม All-Japan นักเรียนมัธยมปลายเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเทนนิสเยาวชนชั้นนำของญี่ปุ่น การเข้าค่ายทำได้โดยเชิญเท่านั้น
นักเทนนิสที่ได้ฉายาว่า "ยามเฝ้าประตูนรก" เป็นสมาชิกที่อยู่คอร์ท 5 ใน U-17 และเป็นสมาชิกหมายเลขที่ 5 ของทีมชาติญี่ปุ่น ในอดีตอยู่ที่คอร์ด เบอร์ 5 แต่ยอมลดชั้นลงมา เพื่อให้คนอื่นไต่ระดับต่อไป หนึ่งในนั้น คือ โทคุงาวะ คัตสึยะ ความหวังของทีมชาติญี่ปุ่นต่อไป เขาเป็นคนเดียว ที่สามารถเอาชนะ เบียวโดอิน โฮโอ ในการแข่งขัน เมื่อ 2 ปีก่อน เขาสามารถแบกหินหนักเป็นสิบสิบตันได้ เป้าหมายเดิมของเขาคือการเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเด็กกำพร้าที่เขาเล่นด้วยบ่อยๆ แม้จะมีท่าทางแข็งกร้าว แต่เขาก็มีด้านที่อ่อนโยนและเต็มใจที่จะยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
เป็นสมาชิกที่อยู่คอร์ท 1 ใน U-17 และเป็นสมาชิกหมายเลขที่ 4 ของทีมชาติญี่ปุ่น แทนที่ เอจิเซ็น เรียวกะที่ถอนตัว เดิมทีเป็นผู้เล่นชั้นนำจากต่างประเทศ เป็นสมาชิกของคนแรกที่เคยถูกขายหน้าในการแข่งขันกับเบียวโดอิน หลังจากการสูญเสียครั้งนั้น เขาฝึกบนภูเขาและได้รับความช่วยเหลือจากทั้งโอนิและอิริเอะเพื่อแก้แค้นเบียวโดอิน และเป็นคนที่ 1 ในนั้น ที่สามารถที่ตีพร้อมกันได้ทั้ง 10 ลูก ภายในครั้งเดียว
เป็นสมาชิกที่อยู่คอร์ท 3 ใน U-17 เช่นเดียวกับโอนิ เขาอาจจะเหนือกว่าก็ได้ เขาเป็นนักแสดงทั้งในและนอกสนาม แกล้งทำเป็นว่าอ่อนแอและดิ้นรนเพื่อกล่อมคู่ต่อสู้ให้รู้สึกปลอดภัย หรือแค่แกล้งเพื่อนร่วมทีม เขามีความเข้าใจที่เฉียบแหลมในบุคลิกของผู้อื่นและสนใจอย่างมาก เขาชอบเล่นแซกโซโฟน
เป็นสมาชิกหมายเลขที่ 2 ของทีมชาติญี่ปุ่น ชอบแกล้งนักกีฬา ม.ต้น อยู่เสมอ เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในค่าย U-17 ที่ โอนิไม่สามารถเอาชนะได้ เป็นนักเทนนิสที่มีข้อมืออันอ่อนนุ่มสามารถรับลูกได้ทุกสถานการณ์